4 สารสกัดช่วยรักษาฝ้าที่ได้ผลจริง มีผลวิจัยอ้างอิงจากเหล่าแพทย์ผิวหนัง

4 สารสกัดช่วยรักษาฝ้าที่ได้ผลจริง มีผลวิจัยอ้างอิงจากเหล่าแพทย์ผิวหนัง
อ้างอิง อ่าน 206 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง

 

ปัญหาผิวกวนใจอย่างการเป็นฝ้าบนผิวไม่ว่าจะเป็นตามลำตัว หรือตามผิวหน้า มักจะทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ ยิ่งถ้าเป็นฝ้าแดดที่ฝังลึก มีสีเข้มและมองเห็นได้ชัดเจน ยิ่งทำให้อยากจะหาวิธีรักษาฝ้าที่ได้ผลมาใช้ในทันที วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ 4 วิธีรักษาฝ้าที่ได้ผลจริง และได้รับการยอมรับจากเหล่าแพทย์ผิวหนังทั่วโลก จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างต้องลองไปดูกัน

 


 

ก่อนอื่น มารู้จักกับสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้ากันก่อนดีกว่า ฝ้าเป็นจุดสีเข้มกว่าส่วนอื่น ๆ บนผิว ทำให้สังเกตเห็นได้ง่าย มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากรังสี UVA ซึ่งมีทั้งฝ้าแบบลึกและแบบตื่น ซึ่งต้องใช้การรักษาที่แตกต่างกันออกไป ถ้าหากไม่อยากเป็นฝ้าแดดกวนใจ ก็ต้องดูแลผิวด้วยการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ และต้องทาครีมกันแดดในปริมาณที่ถูกต้องเสมอ เพื่อช่วยป้องกันผิวจาก UVA ต้นเหตุสำคัญของการเกิดฝ้านั่นเอง

 

วิธีรักษาฝ้าในปัจจุบันนั้นมีตั้งแต่การใช้ครีมไวท์เทนนิ่งไปจนถึงการใช้เลเซอร์เพื่อลดความเข้มของจุดสีเมลานินบนผิวให้จางลง แต่สำหรับใครที่กังวลว่าจะมีผลข้างเคียงอื่น ๆ เมื่อรักษาฝ้าด้วยวิธีที่ไม่คุ้นชิน ก็ขอแนะนำให้รู้จักกับเหล่าอาหารผิวที่รักษาฝ้าได้จริง ไร้ผลข้างเคียง และถูกแนะนำโดยแพทย์ผิวหนังจากทั่วโลก

 

ลูมินัส 630 (Luminous 630)
สารสกัดตัวใหม่ที่ถูกค้นพบโดยแพทย์ผิวหนังและทีมผู้เชี่ยวชาญจากนีเวีย ในประเทศเยอรมนี ลูมินัส 630 นี้สามารถช่วยรักษาฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะเป็นฝ้าที่สะสมมานานถึง 10 ปีก็สามารถจางลงได้ ซึ่งสารตัวนี้มีอยู่ในครีมทรีตเมนท์ของนีเวียนั่นเอง

 

วิตามินซี (Vitamin C)

อาหารผิวตัวสำคัญที่เป็นตัวช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ช่วยลดรอยด่างดได้อย่างดีเยี่ยม และยังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดริ้วรอยและฝ้ากระอีกด้วย นอกจากวิตามินซีจะช่วยทำให้รอยฝ้าจางลงแล้ว ก็ยังช่วยปรับผิวโดยรวมให้สว่างขึ้นอีกด้วย จึงสามารถพบเห็นผลิตภัณฑ์จากวิตามินซีมากมายในปัจจุบันที่ช่วยรักษาฝ้า ลดรอยด่างดำ และช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

หากใช้เซรุ่มวิตามินซี แพทย์ผิวหนังแนะนำว่าให้ใช้ช่วงเช้า ก่อนที่จะลงครีมกันแดด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
 

ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)

หากพูดถึงการรักษาฝ้าที่มีประสิทธิภาพแล้ว ก็ต้องนึกถึงตัวยาสำคัญอย่างไฮโดรควิโนนที่ช่วยยับยั้งกระบวนการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่มีมากผิดปกติ อย่างเช่นกระบวนการการเกิดฝ้า ที่เกิดจากการที่เม็ดสีเมลานินทำงานมากผิดปกติจนเกิดเป็นจุดสีเข้ม ไฮโดรควิโนนจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญของเหล่าครีมรักษาฝ้านั่นเอง

สารตัวนี้เหมาะสำหรับใช้ตอนก่อนนอนในช่วงแรกที่เริ่มใช้ เมื่อผิวเริ่มปรับสภาพได้ อาจจะเริ่มใช้ 2 ครั้งต่อวัน ในตอนเช้าที่ต้องทาครีมกันแดดร่วมด้วยเสมอ และตอนก่อนนอนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
 

กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid)
เป็นสารสกัดที่พบได้ในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ มีฤทธิ์เป็นกรด แต่เป็นมิตรต่อผิวและยังเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ผิวหนังว่าเห็นผลจริงในการช่วยลดจุดด่างดำที่เกิดขึ้นบนผิว ทำให้เป็นสารอีกตัวที่ถูกหยิบยกไปใช้ หากใช้สารนี้ที่ความเข้มข้นมากกว่า 15% จะต้องอยู่ใต้การควบคุมของแพทย์ แต่จากการวิจัยหลากหลายชิ้น พบว่าไม่ว่าจะใช้สารนี้ในปริมาณที่เจือจางมาก ๆ ก็ยังได้ผลที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

 

มีข้อมูลแน่น ๆ แบบนี้แล้วต่อไปนี้เวลาเลือกซื้อครีมทาผิวจะได้เลือกตัวที่มีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยรักษาฝ้าได้อย่างตรงจุด ได้ผลแน่นอน แถมยังปลอดภัยอีกด้วย


 
 
miyeonp619 [223.27.244.xxx] เมื่อ 2/09/2020 16:12
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
รูปประกอบความคิดเห็น :
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
อีเมล์ :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :