การสแกนบัตรกับเครื่องสแกนบัตร ผู้คิดค้น ข้อดีข้อเสียในการใช้งาน |
|
อ้างอิง
อ่าน 62 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
|
การสแกนบัตรเป็นกระบวนการอ่านและดึงข้อมูลจากแถบแม่เหล็กของบัตร การสแกนบัตรเริ่มใช้ครั้งแรกในปี 1970 เดิมทีธนาคารใช้เพื่ออ่านหมายเลขบัตร วันหมดอายุ และรหัส CVV สิ่งนี้ยังคงทำอยู่ในปัจจุบัน แต่ตอนนี้ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น การสแกนบัตรช่วยให้ธุรกิจประหยัดเวลาและเงินโดยการลดข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูล เร่งเวลาดำเนินการ และลดความเสี่ยงในการฉ้อโกง นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ เช่น PCI DSS และ GDPR ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การสแกนบัตรได้ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ มากมาย เช่น การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก การศึกษา การขนส่ง และบริการภาครัฐ
เครื่องสแกนบัตรเป็นอุปกรณ์ที่สามารถสแกนบาร์โค้ดบนบัตรและแปลงเป็นรูปแบบดิจิทัล เครื่องสแกนบัตรถูกใช้ในหลายสถานที่ เช่น ร้านค้าปลีก โรงพยาบาล และธนาคาร เพื่อสแกนบัตรของลูกค้าและพนักงาน
ข้อดีของการสแกนบัตรที่เหนือกว่าระบบบัตรกระดาษแบบเดิมๆ ข้อดีข้อแรกคือมีความปลอดภัยมากกว่า ข้อดีประการที่สองคือช่วยลดการใช้บัตรและค่าใช้จ่าย ข้อดีประการที่สามคือสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น คะแนนสะสม คูปอง และอื่นๆ ระบบนี้ยังไม่มีข้อเสียในตอนนี้ แต่ในอนาคต หากระบบซับซ้อนหรือแพงเกินไปในการบำรุงรักษา ก็จะกลายเป็นข้อเสีย
การสแกนบัตรกลายเป็นวิธียอดนิยมในการจัดเก็บข้อมูลบัตรเครดิตของคุณ แต่อาจเป็นอันตรายได้ ข้อเสียของการสแกนบัตรคือการติดตามข้อมูลบัตรเครดิตทั้งหมดของคุณทำได้ยาก และคุณไม่สามารถใช้บัตรจริงได้หากคุณทำหาย
ในปี พ.ศ. 2396 นักประดิษฐ์ชาวเยอรมันชื่อ ฟรีดริช วิลเฮล์ม เอมิล เบราน์ ได้คิดค้นเครื่องสแกนบัตรเครื่องแรก เครื่องนี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเรียงและนับไพ่ การสแกนบัตรเป็นกระบวนการที่สำคัญในหลายอุตสาหกรรม เช่น การธนาคาร การค้าปลีก และการขนส่ง นอกจากนี้ยังใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสายการผลิต
|
|
|