อุปสรรคในการเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐานของประชาชน

    ในปัจจุบันแม้สังคมจะมีการตระหนักรู้เกี่ยวกับความเท่าเทียม และเห็นความสำคัญของการมอบสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนและพนักงานกันอย่างทั่วถึง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายังคงมีคนบางกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการเหล่านี้ได้ เนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การขาดความรู้ ปัญหาการเดินทาง เวลาที่จำกัด และอีกมากมาย จนส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง การที่บริษัทหรือองค์กรหันมาให้ความสนใจกับพนักงานและประชาชนกลุ่มเหล่านี้มากขึ้น ด้วยการมอบสวัสดิการดี ๆ เช่น การตรวจฟัน การตรวจสุขภาพ การรณรงค์ด้วยการให้ความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับการตรวจช่องปาก เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน

กิจกรรม CSR เพื่อสังคมคืออะไร

    กิจกรรม CSR เพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) คือ การจัดกิจกรรมบางอย่างโดยไม่แสวงหาผลกำไร เป็นการจัดทำขึ้นเพื่อมอบสิ่งดี ๆ และพัฒนาสังคมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เช่น การมอบบริการทางทันตกรรมอย่างการตรวจฟันและตรวจสุขภาพฟัน การจัดกิจกรรมให้ความรู้ การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส การพัฒนาชุมชน การพัฒนาทักษะอาชีพ สำหรับกิจกรรม CSR สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 4 ระดับ โดยสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งการกระทำที่ทำโดยตั้งใจและเป็นกิจกรรมที่ทำตามข้อกำหนด ดังนี้

1. ระดับ 1 Mandatory Level

ข้อกำหนดในทางกฎหมายคือ กิจกรรมที่ทางบริษัทหรือองค์กรต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือข้อบังคับที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้ เช่น การทำธุรกิจโดยคำนึงถึงกฎหมายในการคุ้มครองผู้บริโภค การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน การจ่ายภาษีอย่างครบถ้วน

2. ระดับ 2 Elementary Level

ประโยชน์ทางเศรษฐกิจคือ การที่ธุรกิจหรือองค์กรดำเนินงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยต้องพยายามทำผลงานให้ธุรกิจเกิดกำไรและสามารถอยู่รอดได้ โดยกำไรที่ได้มาจากการดำเนินธุรกิจนั้นต้องได้มาโดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคม

3. ระดับ 3 Preemptive Level

จรรยาบรรณทางธุรกิจคือ การดำเนินธุรกิจโดยสามารถสร้างกำไรให้แก้ผู้ถือหุ้นได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีการคำนึงถึงสังคมรอบที่อยู่รอบข้างองค์กรร่วมด้วย เช่น การไม่ปล่อยของเสียลงแม่น้ำ และการไม่ปล่อยมลพิษสู่ชุมชนรอบข้าง จนเกิดความเดือดร้อน

4. ระดับ 4 Voluntary Level

ความสมัครใจคือ การทำ CSR ด้วยการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นถึงประโยชน์ของสังคมเป็นหลัก โดยสมัครใจในการมอบกิจกรรมหรือสวัสดิการดี ๆ ให้แก่สังคม เช่น การตรวจสุขภาพ การตรวจฟัน การจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพ ซึ่งการทำ CSR ประเภทนี้จะต้องทำโดยสมัครใจ และไม่ได้มีการเรียกร้องมาจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
 

การทำ CSR เพื่อสังคมด้วยการตรวจฟัน สามารถทำได้อย่างไร

    สุขภาพฟันเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้สุขภาพร่างกาย แต่ผู้คนส่วนใหญ่มักมองข้ามการตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากมองว่าฟันและช่องปากไม่ได้มีปัญหาอะไร จนทำให้ประชาชนหลายคนประสบปัญหาสุขภาพฟันที่ร้ายแรง เนื่องจากไม่ได้มีการเข้ารับการตรวจช่องปากและดูแลรักษาฟันด้วยวิธีการที่ถูกต้อง การทำกิจกรรม CSR เพื่อสังคมด้วยการมอบบริการทางทันตกรรมอย่างรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จึงเป็นการทำ CSR ที่น่าสนใจและแปลกใหม่ในสังคม ซึ่งบริษัทและองค์กรสามารถทำได้ทั้งการเลือกใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ในการเข้ามาตรวจฟันให้แก่พนักงานในองค์กร และประชาชนในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการทางทันตกรรมได้ โดยรถทันตกรรมมีข้อดีมากมาย ดังนี้

• ความสะดวกสบายในการเข้าถึง

รถทันตกรรมเคลื่อนที่ สามารถเข้าไปให้บริการทางทันตกรรมได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท โรงงาน หมู่บ้าน หรือชุมชนในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการได้

• ประหยัดเวลาในการเดินทางและเข้าใช้บริการ

บ่อยครั้งที่ประชาชนมีการมองข้ามการตรวจสุขภาพฟันและตรวจช่องปาก เนื่องจากไม่มีเวลา ไม่สามารถลางานได้ ไม่อยากเสียค่าเดินทาง บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

• ความน่าเชื่อถือจากทันตแพทย์มากประสบการณ์

การเลือกใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการตรวจสอบมาตรฐานจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งยังมีทันตแพทย์มากประสบการณ์ที่มีใบรับรอง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้บริการได้มากขึ้น

• ใช้สวัสดิการประกันสังคมได้

บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental สามารถให้พนักงานใช้สวัสดิการประกันสังคมได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และส่งเสริมให้มีการใช้สิทธิของตัวเองกันอย่างทั่วถึง

• ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

การเลือกทำ CSR ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ช่วยมอบบริการดี ๆ ขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ให้สามารถเข้ารับการตรวจฟันอย่างทั่วถึง ส่งเสริมสุขภาพฟันที่ดี เพื่อบุคลิกภาพที่ดีในอนาคต
 

ทำ CSR ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนได้จากที่ไหน